ข้อความและคำแปล: Victor Lebedev
รูปถ่าย: เว็บไซต์ทางการของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
รองประธานาธิบดีและนายกรัฐมนตรีของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ดูไบชีห์มุสลิมมูฮัมหมัดเบน RASHED อัลมักตุม - หนึ่งในรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เขากำหนดตำแหน่งทางการเมืองอย่างชัดแจ้งโดยชัดแจ้งอย่างชัดแจ้งในการพัฒนาเศรษฐกิจของดูไบซึ่งเป็นที่รู้จักกันในฐานะการกุศลและสุภาพบุรุษที่ประสบความสำเร็จอย่างสมบูรณ์ในการสร้างและแสวงหาโดยไม่เกิดผล การแต่งงานกับลูกสาวคนสุดท้ายของกษัตริย์จอร์แดน HUSSEIN SHEIKH MUHAMMED ที่ได้รับการบูรณะบ้านของ HASHEMITE ของศาสดาอิสลาม ในเผ่า Hashemite ซึ่งนำมาจากปู่ทวดของ Great Mekkans - Hashem IBN ABDEL MANAF, บริษัท ย่อยมากมายของ DAUGHTER ของ ALLAH FATIMA ทันทีมาจากเขา
Viktor Lebedev นักข่าวชาวตะวันออกได้ทำงานเป็นนักข่าว ITAR-TASS ในประเทศอาหรับหลายแห่ง - ซีเรียอียิปต์ซูดานตูนิเซียเยเมนมานานกว่าสามสิบปี เกือบครึ่งหนึ่งของเทอมนี้อาศัยและทำงานในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ Victor Lebedev เป็นผู้แต่งหนังสือ“ World of the Emirates” จากซีรีส์“ Arabian Arabesques” ซึ่งเป็นผู้ชนะคนแรกของรางวัลระดับนานาชาติที่ได้รับการตั้งชื่อตาม Viktor Posuvalyuk นักหนังสือพิมพ์โอเรียนเต็ล Viktor Lebedev ผู้ประพันธ์วัสดุเฉพาะของหลายประเทศที่ตีพิมพ์ในวารสารของเรายังเป็นนักแปลวรรณกรรมของข้อรองของ UAE รองประธานและนายกรัฐมนตรีผู้ปกครองของดูไบ Sheikh Mohammed bin Rashid Al Maktoum บทกวีสำหรับรุ่นรัสเซียได้รับการคัดเลือกโดยนักกวีระดับสูงของตัวเอง
กลุ่ม Maktum เป็นกลุ่มชนเผ่า Bani Yas ซึ่งอาศัยอยู่ที่เอมิเรตส์ของอาบูดาบีและดูไบ สมาชิกบางคนของกลุ่มอาศัยอยู่ใน Sharjah, Ajman และ Umm Al Quwain เช่นเดียวกับในบาห์เรนกาตาร์และซาอุดิอาระเบีย ตระกูลมักตัมเป็นของโบราณ ตัวแทนของ บริษัท ตระหนักดีถึงรากเหง้าของพวกเขาในส่วนลึกของประวัติศาสตร์อาหรับ ชื่อของบรรพบุรุษของราชวงศ์ดูไบนั้นเป็นที่รู้จักกันมานานกว่าห้าสิบชั่วคนซึ่งยืนยันถึงความสูงส่งของมัน
ราชวงศ์นั้นมีอายุเกือบ 180 ปีตั้งแต่ปี 1833 ผู้ก่อตั้ง Sheikh Maktum bin Butty ที่หัวของชนเผ่าแปดร้อยคนจากเผ่า Bu-Fallas แยกออกจากเขามีบรรพบุรุษหนึ่งของเผ่า Bu-Falah ซึ่งเป็นของชนชั้นปกครองเอมิเรต อาบูดาบีเป็นตระกูล Nahayyan และย้ายจากเอมิเรตของอาบูดาบีไปยังพื้นที่ของอ่าวดูไบ เขาก่อตั้งเอมิเรตของตัวเองในหมู่บ้านชายทะเลเล็ก ๆ ชื่ออัล - วาล์ล ชื่อนี้ได้รับการเก็บรักษาไว้ในชื่อถนน Jumeirah สโมสรฟุตบอลดูไบและสถานประกอบการหลายแห่งเท่านั้น ผู้ก่อตั้งดูไบรักษาสัมพันธมิตรกับเอมิเรตของอาบูดาบีและรักษาความสัมพันธ์ฉันมิตรกับ Umm Al-Quwain
ชีคโมฮัมเหม็ดอัลมักตุมในปี 2549 ได้กลายเป็นผู้ปกครองคนที่สิบของดูไบต่อการปกครองราชวงศ์ในท้องถิ่น
การกลาย
Sheikh Mohammed เกิดที่ดูไบเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 1949 เขาเป็นบุตรชายคนที่สามของผู้ปกครองสายเลือดแห่งดูไบเชคแรชบินซาอีดอัลมักตูม พ่อของชีคพร้อมกับประธานาธิบดีคนแรกของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ชีคซาเยบินบินสุลต่านอัลนาห์ยานสนับสนุนสิ่งสำคัญที่สุดในการสร้างรัฐเอมิเรตของรัฐบาลกลางซึ่งรวมถึงเอมิเรตแห่งชาร์จาห์อุมอัลเคว็น อัลฟูไจราห์
แม่ของผู้ปกครองดูไบในปัจจุบันคือ Sheikh Latif bint Hamdan bin Zayed (First) Al Nahyan เป็นตระกูลผู้ปกครองของประมุขแห่งรัฐอาบูดาบีและเป็นลูกพี่ลูกน้องของ Sheikh Zayed bin Sultan Al Nahyan พ่อแม่ผู้ปกครองของดูไบอยู่ด้วยกันมา 40 ปีแล้ว ลูกชายรักษาความทรงจำที่ดีของแม่และอุทิศบทกวีของเธอมากมายให้เธอ
Sheikh Mohammed ใช้เวลาในวัยเด็กของเขาในบ้านของครอบครัวใน Shindag ใน Bar Dubai ซึ่งเขาดูแลอูฐกับเพื่อนร่วมงานของเขาทำงานในเหยี่ยวการแข่งม้ายิงปืนและว่ายน้ำเข้าโรงเรียนในท้องถิ่นเข้าร่วมการประชุมทางธุรกิจของปู่ Sheikh Said กับชนเผ่าเพื่อนในระหว่างที่เขาเริ่มคุ้นเคยกับภูมิปัญญาของการปกครองตะวันออก
หลังจากการตายของปู่ของเขามูฮัมหมัดหนุ่มมักจะอยู่กับพ่อของเขาในทุกความพยายามทางการเมืองและเศรษฐกิจของเขาและในนามของเขาแล้วในปีแรก ๆ ของเขานำบริการรักษาความปลอดภัยในเอมิเรต หลังจากเข้าร่วมชั้นเรียนของโรงเรียนในท้องถิ่นชีคโมฮัมเหม็ดจบการศึกษาจากโรงเรียนสอนภาษาเบลล์ในเคมบริดจ์ศึกษาที่วิทยาลัยการทหาร Mons ในสหราชอาณาจักรและตามที่เพื่อนสนิทของเขาพูดภาษาอังกฤษที่ยอดเยี่ยม
หลังจากกลับมาถึงบ้านเกิดของเขาในช่วงปลายทศวรรษ 1960 ชาวอาหรับหนุ่มคนหนึ่งที่ได้รับการศึกษาในยุโรปกลายเป็นหัวหน้าตำรวจและหน่วยงานความมั่นคงในเอมิเรต ในปี 1971 เขาได้สร้างกองกำลังป้องกันดูไบ ในปี 1975 กองกำลังเหล่านี้กลายเป็นส่วนหนึ่งของกองทัพเอมิเรต ชีคโมฮัมเหม็ดอายุ 26 ปีเป็นผู้นำกองกำลังติดอาวุธของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์กลายเป็นรัฐมนตรีกลาโหมที่อายุน้อยที่สุดในโลก ตั้งแต่นั้นมาเขาได้เป็นผู้นำกองทัพของประเทศอย่างต่อเนื่องมานานกว่าสามทศวรรษและสวมอินทรธนูของนายพลฝ่ายหนึ่ง
นักการเมือง
ที่ 4 มกราคม 2549, Sheikh Mohammed กลายเป็นผู้ปกครองของดูไบหลังจากการตายของ Sheikh Maktum พี่ชายของเขา ในวันรุ่งขึ้นสภาสูงแห่งสหพันธรัฐประกอบด้วยประมุขของทั้งเจ็ดเอมิเรตส์รวมอยู่ในสหพันธรัฐเลือกชีคโมฮัมเหม็ดรองประธานาธิบดีของประเทศและอนุมัติข้อเสนอของประมุขแห่งรัฐอาหรับชีคคาลิฟาบิน Zayed อัล Nahyan แต่งตั้งรัฐบาลนายกรัฐมนตรี
ผู้ปกครองของดูไบมีความพึงพอใจกับผู้มีอำนาจในประเทศ เขาเป็นที่รู้จักในฐานะนักการเมืองอิสระความกล้าหาญและความจริงใจ แก้ไขโดยเขาในดูไบและทั่วประเทศงานพัฒนาบนพื้นฐานของเทคโนโลยีที่ทันสมัยและการใช้งานของโครงการปฏิวัติอย่างแท้จริงสร้างแรงบันดาลใจให้นักธุรกิจและผู้ประกอบการท้องถิ่นในยูเออีและหลายสิบประเทศในเอเชียและแอฟริกา
สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ "ควรเป็นตัวอย่าง" สำหรับชาวอาหรับและโลกโดยรวมโดยรองประธานาธิบดีเอมิเรตเป็นงานที่ท้าทายสำหรับผู้คนและประเทศ ในหนังสือของเธอที่ชื่อว่า“ มุมมองของฉัน: ความท้าทายในการแสวงหาความเป็นเลิศ” ชีคโมฮัมเหม็ดพยายามหาวิธีที่จะชุบชีวิตชนชาติอาหรับที่ยิ่งใหญ่บนพื้นฐานของการรับใช้ผู้คนและสังคม เขาสนับสนุนการคงเอกลักษณ์ของชาวอาหรับโดยปฏิเสธความพยายามที่จะกำหนด“ ประชาธิปไตยตะวันตก” ให้กับชาวอาหรับ “ ประสบการณ์ประชาธิปไตยเขาไม่สามารถแยกออกเป็นโลกอาหรับหรืออิสลามสิ่งที่เหมาะสำหรับตะวันตกไม่จำเป็นต้องเหมาะสมกับตะวันออกและในทางกลับกัน”
รองประธานาธิบดีสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และนายกรัฐมนตรีสนับสนุนการริเริ่มสันติภาพอาหรับเป็นลูกบุญธรรมในการประชุมสุดยอดอาหรับ 2002 ในเบรุตประกาศความสำเร็จของสันติภาพที่ยุติธรรมและครอบคลุมในตะวันออกกลางเป็นเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ของประเทศอาหรับ เขาร่วมกับรัสเซียพูดต่อต้านการแยกทางการเมืองของชาวปาเลสไตน์ฮามาสปาเลสไตน์เคลื่อนไหวเพลิดเพลินกับการสนับสนุนของประชากรในดินแดนอาหรับของอิสราเอลสนับสนุน "พี่น้องชาวปาเลสไตน์" โดยไม่คำนึงถึงสีการเมืองของเจ้าหน้าที่ปาเลสไตน์และเน้นความสงบในอิสราเอล ถูกสร้างขึ้นบนพื้นฐานของฉันทามติภายในปาเลสไตน์เท่านั้น
ชีคโมฮัมเหม็ดยืนยันความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างประเทศอาหรับในอ่าวเปอร์เซียกับอิหร่าน เมื่อสัมผัสกับอาวุธนิวเคลียร์ของอิหร่านเขายินดีที่จะแก้ไขปัญหานี้ "อย่างสันติผ่านการเจรจาภายใต้กรอบของความถูกต้องตามกฎหมายระหว่างประเทศ" และประกาศตะวันออกกลางว่าเป็นเขตปลอดอาวุธทำลายล้างสูง "ความเสียหายใด ๆ ที่เกิดขึ้นกับอิหร่าน" เขากล่าว "จะก่อให้เกิดความเสียหายต่อทั้งภูมิภาค"
ชีคโมฮัมเหม็ดมีความแม่นยำในแถลงการณ์ทางการเมืองของเขาโดยยอมรับว่าสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ "อาศัยอยู่ในย่านที่ยากลำบาก" เผชิญกับปัญหาที่ยากลำบากหลายทศวรรษที่ผ่านมาเช่นสงครามอิหร่าน - อิรักการบุกโจมตีกองทัพของซัดดัมฮุสเซนในคูเวต บนดินแดนเมโสโปเตเมียโบราณ
ผู้ปกครองที่กลายเป็นหัวหน้าคนงาน
หลังจากการตายของชีค Rashed ผู้ปกครองดูไบตั้งแต่ปี 1958 ในปี 1990 ชีคโมฮัมเหม็ดกลายเป็นเสาหลักของพี่ชายหัวกะทิที่เข้ามากุมบังเหียนของอาหรับ Sheikh Maktum bin Rashed อัลมักตุม ในปี 1995 เขาได้รับการประกาศให้เป็นประมุขแห่งเอมิเรต นับตั้งแต่วินาทีนั้นเป็นต้นมาการถอดถอนของดูไบทางเศรษฐกิจที่แท้จริงมากกว่าหนึ่งทศวรรษครึ่งเริ่มขึ้นอันเป็นผลมาจากการที่ใบหน้าของเอมิเรตเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เทศกาลการค้าดูไบได้เปิดขึ้นซึ่งยอดขายในปีแรกมีมูลค่าประมาณหนึ่งพันล้านดอลลาร์ การแข่งขันขี่ม้าระดับนานาชาติสำหรับการแข่งขันดูไบคัพเริ่มขึ้น
สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมารเป็นจุดเริ่มต้นของการขยายตัวของสนามบินนานาชาติดูไบซึ่งเปิดในปี 2541 หนึ่งในอาคารผู้โดยสารที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง Sheikh Rashed ได้ประกาศซื้อเครื่องบินโดยสารใหม่ 60 ลำรวมถึงแอร์บัส A-380 ลำแรก
บนเกาะเทียมห่างจากชายฝั่งร้อยเมตรโรงแรมที่สูงที่สุดในโลก Burj Al Arab ("Burj alArab") ซึ่งเป็นอาคารรูปใบเรือที่สามารถมองเห็นได้จากระยะทางสองหมื่นกิโลเมตร ในช่วงเวลาเดียวกันได้มีการประกาศการสร้างเกาะที่มนุษย์สร้างขึ้น“ Nakhlya” (Palma) นอกชายฝั่งดูไบ เอมิเรตมีเมืองอินเทอร์เน็ตและรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งจนถึงปี 2538 สามารถฝันได้เนื่องจากเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์เป็นที่รู้จักกันในเวลานั้นเฉพาะกับครอบครัวมักตัมและผู้ที่อยู่ใกล้เคียง
ชีคโมฮัมเหม็ดซึ่งเป็นเจ้าของเมืองหลวงขนาดใหญ่และ บริษัท ขนาดใหญ่ในดูไบเรียกร้องการเมืองว่า“ เกวียน” และเศรษฐกิจ“ ม้า” โดยส่วนตัวเรียกร้องให้พวกเขาใช้สถานที่ที่เหมาะสม “ เศรษฐกิจ” เขากล่าว“ ควรก้าวไปข้างหน้ากับการเมืองไม่ใช่ในทางกลับกัน”
“ การปฏิเสธความเสี่ยงเป็นความเสี่ยงที่ยิ่งใหญ่ที่สุด” ชีคโมฮัมเหม็ดกล่าว ต้องขอบคุณการตระหนักถึงความกล้าหาญความคิดสร้างสรรค์ของเขาบางครั้งน่าอัศจรรย์และในเวลาเดียวกันเป็นไปได้และแน่นอนความคิดที่เป็นไปได้ดูไบทำให้การบินขึ้น - ลงที่ยอดเยี่ยมตัดสินโดยความสูงซึ่งยากที่จะเชื่อว่าหลายทศวรรษที่ผ่านมา จานรองแก้วที่น่าตื่นเต้นพอร์ตซื้อขายอึมครึม
ผู้นำที่เข้มแข็งการใช้ชีวิตด้วยความตั้งใจสูงยอมรับว่า "มีแนวโน้มที่จะแตกหัก แต่ไม่มีความเข้มงวด" กล่าวว่า: "ถ้าคุณต้องการความสำเร็จให้รับความเสี่ยง" "ความกลัวว่าจะล้มไม่ควรยุ่งกับการปีนขึ้นไปบนยอด" "อย่ารอให้เหตุการณ์สร้างมันขึ้นมา" อย่ามองย้อนกลับไปข้างหลังหวังว่าจะได้เป็นคนแรก "อย่าหาทาง - ปูถนน" เขาเชื่อว่า "ถ้าคุณตั้งเป้าหมายที่จะติดต่อกับคนอื่นคุณจะไม่เป็นคนแรก" และเน้นว่า "ไม่มีเส้นแบ่งในการแสวงหาความเป็นเลิศ" ในเวลาเดียวกันพวกอาหรับก็ถูกลิดรอนจากความพึงพอใจและไม่กลัวที่จะสูญเสียเรียกร้องให้ "ความสุภาพในชัยชนะและความแน่วแน่ในการพ่ายแพ้" ในภาวะวิกฤตการเงินโลกดูไบเผชิญกับการพัฒนาทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วและการดึงดูดสินเชื่อขนาดใหญ่มากเผชิญกับปัญหาทางเศรษฐกิจที่ยิ่งใหญ่ แต่ค่อย ๆ หลุดจากหนี้โดยใช้ความช่วยเหลือจากเมืองหลวงของเอมิเรตส์และเจรจากับเจ้าหนี้ต่างประเทศ
นักการเมืองเอมิเรตและนักธุรกิจขนาดใหญ่คิดในแบบดั้งเดิมโดยสังเกตว่า "เขาที่ประสบความสำเร็จจากการพับคนหนึ่งแล้วได้ 11 คน" ข้อความดังกล่าวเป็นพยานถึงความอุตสาหะของเขา: "เมื่อคุณต้องการทำอะไรอย่าคิดว่ามันจะเป็นงาน" "การเพลิดเพลินกับงานเป็นเหมือนการเพิ่มอีก 5 วันทำการในสัปดาห์" คนทำงานหนักไม่ยอมรับคำเยินยอและผู้ฉวยโอกาสฉวยโอกาสเตือนตัวเองในคำอื่น ๆ : "ถ้าทุกคนเห็นด้วยกับคุณรู้ว่ามีความผิดพลาดอยู่ที่ไหนสักแห่ง" และยอมรับว่าเขา "ยอมรับคำวิจารณ์ที่สามารถนำไปสู่เส้นทางที่แท้จริง"
หัวหน้าคณะรัฐมนตรีของเอมิเรตพิจารณารัฐบาลไม่ใช่ "อำนาจเหนือผู้คน แต่มีอำนาจเพื่อประชาชน" เขาเรียกร้องสิทธิที่จะนำไปสู่ "เกียรติสูงและภาระอันหนักอึ้ง" เห็นงานของเขาในการ "ทำให้ประชาชนมีความสุข" และเข้าใจประชาธิปไตยในฐานะ "ความมั่นคงความมั่นคงและเสรีภาพที่ไม่ละเมิดเสรีภาพของผู้อื่น"
นายกรัฐมนตรีผสมผสานประเพณีกับนวัตกรรม ในเดือนกุมภาพันธ์ 2010 คณะรัฐมนตรีของรัฐมนตรีได้มีการจัดการประชุมในเขตชานเมืองของทะเลทรายอาหรับที่ยิ่งใหญ่ Rub al-Khali (ไตรมาสที่ไม่มีชีวิต) ในตอนท้ายของการทำงานที่โรงแรมมิราจในเขตตะวันตกของรัฐอาบูดาบีชีคโมฮัมเหม็ดได้จัดรายการบันเทิงสำหรับรัฐมนตรี สมาชิกคณะรัฐมนตรีได้ปลูกต้นกล้าจำนวน 22 ต้นในลานของโรงแรมตามจำนวนรัฐมนตรี การปลูกสีเขียวของพืชทะเลทรายที่มีความต้านทานเป็นพิเศษมีชื่อภาษาละตินว่า "mimosa cineraria" ซึ่งรากของระบบไปใต้ดินลึกถึงหลายสิบเมตรมีรูปทรงของแผนที่ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
หลังจากการรณรงค์จัดสวนนายกรัฐมนตรีนำรัฐมนตรีไปยังเนินทรายที่พวกเขายิงใส่จาน รัฐมนตรีหญิงยังเข้าร่วมในการบันเทิงแบบดั้งเดิมของชาวเบดูอินและตามสื่อท้องถิ่นพบว่าผู้ชายมีความแม่นยำมากกว่า ในการแข่งขันหลังจากการยิงบนเนินทรายบนรถเอทีวีทะเลทรายพิเศษผู้หญิงเหล่านั้นพอใจกับชัยชนะของปืนไรเฟิลชุดแรกไม่ได้เข้าร่วมอีกต่อไป ในตอนท้ายของการแข่งขันหัวหน้ารัฐบาลอนุญาตให้รัฐมนตรีออกจากและเขาก็กลับไปที่โรงแรมด้วยการเดินผ่านเนินทรายสีชมพูที่หลวม
แชมป์เศรษฐกิจความรู้
รัฐบาลเอมิเรตทำงานบนพื้นฐานทางอิเล็กทรอนิกส์ ชีคโมฮัมเหม็ดเน้นว่าเศรษฐกิจควรเป็น "เศรษฐกิจความรู้" ไม่ จำกัด เฉพาะการริเริ่มในสาขาเศรษฐกิจ แต่สร้างฐานที่ครอบคลุมที่เหมาะสมสำหรับการพัฒนาเศรษฐกิจติดตามแนวโน้มใหม่ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ความคิดริเริ่มของชีคโมฮัมเหม็ดเพื่อส่งเสริมการศึกษาดำเนินการภายใต้การอุปถัมภ์ของประธานาธิบดีสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ Sheikh Khalifa bin Zayed Al Nahyan ด้วยการมีส่วนร่วมโดยตรงและแข็งขันของมกุฎราชกุมารอาบูดาบีชีคโมฮัมเหม็ดบิน Zayed Al Nahyan กองทุนที่เขาสร้างขึ้นเพื่อความต้องการด้านการศึกษาในประเทศกำลังพัฒนาส่งเสริมการมีส่วนร่วมของคนหนุ่มสาวในกระบวนการสร้างสรรค์และทำหน้าที่ต่อต้านความรู้สึกทางศาสนาที่รุนแรงในภูมิภาคที่มีความขัดแย้ง
เขาให้ความสนใจเป็นพิเศษกับเยาวชน “ เกือบ 1.5 พันล้านคนอาศัยอยู่ในละแวกบ้านของเราซึ่งครึ่งหนึ่งยังไม่ถึงอายุ 25 ในโลกอาหรับ 80 ล้านคนจาก 300 ล้านคนไม่มีงานทำฉันเห็นคนหนุ่มสาวเหล่านี้เป็นแหล่งสร้างประเทศ เราสามารถช่วยเด็กจำนวนมากจากการว่างงานต่ำต้อยและความคลั่งไคล้อันตราย
การศึกษาและการเป็นผู้ประกอบการจะช่วยสร้างโลกที่ปลอดภัยยิ่งขึ้นซึ่งจะมีเยาวชนที่ขมขื่นน้อยกว่าที่พร้อมยอมรับหัวรุนแรงเพราะพวกเขาไม่มีที่อื่นไป "เขากล่าวในการสัมภาษณ์
Sheikh Muhammad ได้จัดตั้งองค์กรที่มีชื่อของเขาโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่มีประสิทธิภาพของการศึกษาการวิจัยและวัฒนธรรมสำหรับภูมิภาคอาหรับทั้งหมดและพัฒนาภาคประชาสังคมสมัยใหม่บนพื้นฐานของมัน
องค์กรซึ่งรองประธานาธิบดีสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้จัดสรร $ 10,000 ล้านจะดำเนินโครงการความคิดริเริ่มและโปรแกรมเฉพาะเพื่อสร้างฐานทางวิทยาศาสตร์ระดับโลกในภูมิภาคและเพื่อพัฒนาการศึกษาและการวิจัย งานของมูลนิธินี้ชีคโมฮัมเหม็ดประกาศการจัดทำ "รัฐบุรุษรุ่นใหม่ผู้ประกอบการและผู้นำของภาคประชาสังคม" การพัฒนาวิธีการแก้ปัญหาแบบใหม่เพื่อแก้ไขปัญหาสังคม - เศรษฐกิจของสังคมอาหรับ
ท่ามกลางคำแถลงของรองประธานาธิบดีและนายกรัฐมนตรีของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ผู้ปกครองของดูไบมีผู้ที่สามารถนำไปใช้ในการประเมินผลของกิจกรรมของเขาในระดับสูง "เรารู้ว่าความสำเร็จของเรานั้นถือได้ว่าก้าวหน้าไปทุกประการนอกจากนี้เรารู้ว่าเรายังอยู่ที่จุดเริ่มต้นของเส้นทางเส้นทางนี้ยาวและเราเชื่อว่าเรากำลังไปในทิศทางที่ถูกต้อง"
ชีคโมฮัมเหม็ดและรัสเซีย
ในวันที่การเคลื่อนไหวในทิศทางนี้ได้นำรองประธานาธิบดีสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ไปยังรัสเซีย คณะผู้แทนเอมิเรตนำโดยชีคโมฮัมเหม็ดเยือนมอสโกอย่างเป็นทางการเมื่อปลายเดือนมีนาคม 2552 “ การเยี่ยมชมมอสโคว์ของเรานำโดยคณะผู้แทนซึ่งรวมถึงรัฐมนตรีผู้รับผิดชอบอื่น ๆ ผู้แทนองค์กรภาคเอกชนของเอมิเรตสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและความสนใจที่แข็งแกร่งของความเป็นผู้นำรัฐบาลและผู้คนของเราในการสร้างสะพานและสร้างช่องทางต่างๆ โอกาสในการสร้างฐานที่มั่นคงสำหรับความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการลงทุนระหว่างสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และสหพันธรัฐรัสเซีย "เขากล่าวกับผู้เขียนในสายงานนี้ล่วงหน้า
นักการเมืองเอมิเรตอายุ 62 ปีตรึงความหวังสูงในการเจรจากับประธานาธิบดีรัสเซียมิทรีเมดเวเดฟและนายกรัฐมนตรีวลาดิมีร์ปูติน “ เรามองการเยือนครั้งนี้ด้วยการมองโลกในแง่ดีหวังและเชื่อว่ามันจะนำผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมในด้านต่าง ๆ และในทุกด้านเพื่อผลประโยชน์ร่วมกันของประชาชนและประเทศของเราจะทำให้เราสามารถปล่อยเลือดสดเข้าไปในเส้นเลือดของเศรษฐกิจโลก "รองประธานยูเออีกล่าว "เราเชื่อมั่นว่าผลการเยือนและการประชุมกับประธานาธิบดีรัสเซียมิทรีเมดเวเดฟและนายกรัฐมนตรีวลาดิเมียร์ปูตินจะเป็นความสำเร็จของมุมมองร่วมและการเกิดขึ้นของความคิดสร้างสรรค์ใหม่ในนามของการเสริมสร้างความสัมพันธ์ทวิภาคีบนพื้นฐานของความเคารพซึ่งกันและกัน เขาแสดงความมั่นใจว่าการไปเยือนมอสโคว์เป็นครั้งแรกในระดับสูง "จะให้บริการเพื่อเสริมสร้างบทบาทเชิงบวกและมีประสิทธิภาพขององค์กรภาครัฐและเอกชนผู้ประกอบการรายบุคคลในการเสริมสร้างความสัมพันธ์มิตรภาพทางประวัติศาสตร์ที่ผูกมัดประชาชนของเราโดยเฉพาะในด้านวัฒนธรรมการท่องเที่ยวเทคโนโลยี "วิทยาศาสตร์และสาขาอื่น ๆ ที่เราพึ่งพาปูทางไปสู่การเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจและการลงทุนบนพื้นฐานของการเจรจาทางวัฒนธรรมและมนุษยธรรม"
ในการสนทนากับผู้แทนของประมุขและสื่ออาหรับรองประธานาธิบดีสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์กล่าวถึงความสำคัญของการเดินทางไปรัสเซียในบริบทของวิกฤตการเงินโลก “ ยูเออีได้รักษาสัมพันธภาพที่ดีกับทุกประเทศในโลกเสมอโดยเฉพาะกับประเทศที่มีเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งภารกิจของเราคือการทำงานเพื่อผลประโยชน์ของการพัฒนาและเสริมสร้างความสัมพันธ์เหล่านี้” เขาเน้น
ดังนั้นรัฐบุรุษเอมิเรตจึงเรียกคำถามของหนังสือพิมพ์ Al-Hayat ของซาอุดิอาระเบียว่า "การเยี่ยมชมดังกล่าวมีประโยชน์อย่างไรในบริบทของวิกฤตการเงินโลก" "แปลก" “ เรามั่นใจอย่างยิ่งว่าวิกฤติจะไม่คงอยู่ตลอดไปและจะสิ้นสุดลงในช่วงวิกฤตโลก” เขาเน้นว่า“ ประเทศต่างๆควรขยายพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ของการเยี่ยมเยียนและกระชับความสัมพันธ์ทวิภาคีโดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื่องจากความจริงที่ว่าเป็นผลมาจากวิกฤติในโลก โครงสร้างทางเศรษฐกิจและการเมืองใหม่ " หนังสือพิมพ์ Al-Bayan ในดูไบยกย่องผลการเดินทางของ Sheikh Mohammed ไปมอสโคว์ เธอเรียกการเยือนครั้งนี้ว่า "ยุทธศาสตร์อเนกประสงค์และประสบความสำเร็จ" โดยเน้นว่าเป็น "มุ่งพัฒนามิตรภาพประวัติศาสตร์ระหว่างสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์กับรัสเซีย" อัล - บายันตั้งข้อสังเกตว่าการประชุมของชีคโมฮัมเหม็ดอัลมักตุมในมอสโกกับประธานาธิบดีเมดเวเดฟและนายกรัฐมนตรีปูติน "เปิดโลกทัศน์ใหม่ในความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์กับรัสเซีย" เธอชี้ให้เห็นว่ามอสโกทั้งในยุคโซเวียตและในยุคปัจจุบัน "เป็นและยังเป็นเพื่อนทางประวัติศาสตร์ของชาวอาหรับ" หนังสือพิมพ์ได้ให้ความสนใจเป็นพิเศษกับความจริงที่ว่ามิทรีเมดเวเดฟและวลาดิมีร์ปูตินกำลังสร้างความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซีย - อาหรับ "แต่เพียงผู้เดียวบนพื้นฐานของการเคารพซึ่งกันและกันและผลประโยชน์ร่วมกัน" เธอแสดงความมั่นใจว่าการมาเยือนของคณะผู้แทนเอมิเรตไปมอสโคว์ "จะทำให้เกิดผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมในด้านต่าง ๆ และในทุกด้านเพื่อผลประโยชน์ร่วมกันของประชาชนและประเทศของเรา"
ในหมู่ประเทศ CIS ชีคโมฮัมเหม็ดเน้น "ความสัมพันธ์ที่มีสิทธิพิเศษกับคาซัคสถานและผู้สนับสนุนตามหนังสือพิมพ์ Al-Bayan" สำหรับการพัฒนาความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการลงทุนในวงกว้างและการสร้างความสัมพันธ์ทวิภาคีที่เป็นมิตรกับประเทศนี้ Nursultan Nazarbayev และในระหว่างที่เขาไปเยือนสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เขาได้รับเขาที่โรงแรมที่สูงที่สุดในโลก Burj Al Arab ("Burj al-Arab" หรือ "Arab Tower") และส่งมอบ Nursultan Nazarbayev ให้กับแฟชั่นนี้โดยเฉพาะ โรงแรมใหม่ในรถยนต์ของคุณเอง
รองประธานาธิบดีสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และนายกรัฐมนตรีนำโดยผู้แทนอย่างเป็นทางการของเอมิเรตพร้อมด้วยญาติสนิทที่มีอิทธิพลมากที่สุดรวมถึงหัวหน้าแผนกการบินพลเรือนเชคอาเหม็ดบินซาอีดอัลมักตูมลูกชายของ Hamdan bin Muhammad ในการพบหารือกับประธานาธิบดีอุซเบกิสถานประธานาธิบดีอิสลามคาริมอฟและเจ้าหน้าที่อื่น ๆ ประเด็นความร่วมมือทวิภาคีในด้านเศรษฐกิจการค้าการขนส่งและการลงทุน
บุตรเขยของดูไบในบ้านของ Hashemite ของศาสดาอิสลาม
เมื่อหลายปีก่อน Sheikh Mohammed bin Rashed Al Maktoum แต่งงานกับครอบครัวดูไบกับราชวงศ์ราชวงศ์ Hashemite ของจอร์แดนซึ่งรับภรรยาของกษัตริย์แห่งจอร์แดน Abdullah II เจ้าหญิง Haya bint Hussein มาเป็นภรรยาของเขา จากการแต่งงานเมื่อปลายปี 2009 มีเด็กหญิงคนหนึ่งชื่อ Jalilea เกิดซึ่งต่อกิ่งสาขาของราชวงศ์ดูไบไปยังต้นไม้ตระกูลที่กว้างขวางของ“ บ้าน Hashemite” ของศาสดาของศาสนาอิสลามมูฮัมหมัดอิบันอับดุลลาห์เนื่องจากเจ้าหญิงคาย่าเป็นเชื้อสายโดยตรง
ภรรยาคนใหม่ของรองประธานาธิบดีเอมิเรตส์อายุน้อยกว่าสามีของเธอประมาณหนึ่งในสี่ศตวรรษ เธอแบ่งปันสิ่งที่แนบมาของเขากับการขี่ม้าและการผสมพันธุ์ม้าเป็นสมาชิกของคณะกรรมการโอลิมปิกระหว่างประเทศเป็นหัวหน้าสหพันธ์ขี่ม้าโลกและเป็นผู้หญิงอาหรับคนแรกที่เข้าร่วมการแข่งขันขี่ม้านานาชาติ
ในเดือนกุมภาพันธ์ 2010 มีการประกาศแหล่งน้ำมันแห่งใหม่ในดูไบซึ่งตัวแทนท้องถิ่นเรียกว่า "สัญญา" และ "สำคัญ" มันถูกตั้งชื่อว่า "Jalilah" โดยใช้ชื่อล่าสุดจนถึงวันที่สิบลูกสาวของรองประธานาธิบดีและนายกรัฐมนตรีของประเทศ เจ้าหน้าที่คาดการณ์ว่าการพัฒนาของ Jalili จะเริ่มขึ้นในปี 2010
ผู้ปกครองของดูไบเป็นพ่อของเด็ก 17 คน หนึ่งในสิบลูกสาวของเขาคือชีคเมย์สกลายเป็นนักกีฬาอาหรับคนแรกที่บินธงประจำชาติของเธอในโอลิมปิกปักกิ่ง คณะกรรมการโอลิมปิกของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้รับเกียรตินี้โดยคำนึงถึงประโยชน์อันโดดเด่นของชาวอาหรับในสาขาศิลปะการต่อสู้ Sheikh Mays ซึ่งไม่ได้เรียกชื่อมารดาได้รับรางวัลเหรียญเงินในการแข่งขันเอเชี่ยนเกมส์ครั้งที่ 15 ที่กาตาร์ ในนัดสุดท้ายเธอแพ้นักกีฬาจากอุซเบกิสถาน
ผู้เชี่ยวชาญในท้องถิ่นชื่นชมความสำเร็จของลูกสาวของชีคโมฮัมเหม็ดซึ่งเป็นหัวหน้าทีมหญิงในคาราเต้ซึ่งได้พัฒนาไปแล้วใน 11 ประเทศอาหรับเท่านั้น ในภาพถ่ายที่ตีพิมพ์ในสิ่งพิมพ์นักกีฬาเอมิเรตดูเหมือนหญิงสาวที่เรียวสวยสูงตระหง่านอยู่เหนือผู้ปกครองซึ่งมีการเติบโตอย่างน้อย 170 เซนติเมตร Sheikh Mohammed สนับสนุนความกระตือรือร้นด้านกีฬาของลูกสาวตรวจสอบการแสดงของเธอในเวทีกีฬาต่างประเทศและให้คำแนะนำ
นอกจากลูกสาวแล้วผู้ปกครองของดูไบยังมีลูกชายอีกเจ็ดคนจากภรรยาหลายคน นอกจากเจ้าหญิงฮายายังเป็นที่รู้จักกันในชื่อของคู่สมรสคนเดียวที่ให้กำเนิดลูก 12 คน ชื่อของเธอคือ Sheikh Hind Bint Maktum bin Jumaa Al Maktoum
เธอเป็นราชวงศ์ดูไบและเป็นแม่ของมกุฎราชกุมารแห่งดูไบเชคฮัมดันซึ่งเป็นผู้มีชื่อเสียงในด้านกวีที่มีความสามารถ
ครอบครัวผู้ปกครองดูไบแต่งงานกับราชวงศ์บาห์เรน Sheikh Nasser - บุตรชายคนที่สี่ของกษัตริย์บาห์เรน Sheikh Hamad Al Khalifa แต่งงานกับลูกสาวคนที่ห้าของเก้าคนของ Sheikh Mohammed Al Maktoum Sheikh Sheikh งานแต่งงานจัดขึ้นที่ดูไบและมานามา บาห์เรน Sheikh Nasser bin Hamad อัลคาลิฟาวัย 22 ปีเป็นหัวหน้าคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งชาติและองค์กรการกุศลของพ่อผู้ครองตำแหน่ง จบการศึกษาจากโรงเรียนการทหารอังกฤษแซนด์เฮิร์สต์เขาเป็นที่รู้จักในฐานะนักกวีผู้ขับขี่ที่มีฝีมือเหยี่ยวและนักสะสมรถยนต์ราคาแพง Sheikh Sheikh รู้เพียงเกี่ยวกับเจ้าสาวที่เธอยังเด็กมากและเช่นเดียวกับพ่อพี่ชายและน้องสาวของเธอเช่นเดียวกับเจ้าบ่าวมีส่วนร่วมในกีฬาขี่ม้าอย่างหลงใหล
ผู้เพาะพันธุ์ม้าและนักกีฬา
ตามข่าวระบุว่าครอบครัวอัลมักตุมผู้ปกครองดูไบมีม้าอยู่ประมาณ 600 ตัวในประเทศในคอกม้าของอังกฤษและฝรั่งเศสซึ่งได้กลายเป็นเครื่องประดับของการแข่งม้าระดับนานาชาติมากมาย
Sheikh Muhammad พูดเกี่ยวกับตัวเองว่าเขา "เกิดมาพร้อมกับความรักต่อม้า" ในคอกม้าส่วนตัวของเขาที่บ้านและต่างประเทศท่ามกลางความงามที่มีแสงหลายร้อยขามีไข่มุกโลกที่หายาก ในฐานะที่เป็นคู่รักและนักเลงม้าผู้เลี้ยงม้าขนาดใหญ่และนักขี่ม้าเขามีส่วนร่วมในการแข่งม้าและการแข่งขันข้ามประเทศและเป็นผู้ชนะ การแข่งขันขี่ม้ายังให้ความสำคัญลูกชายและลูกสาวของเขาท้าทายประเพณีท้องถิ่น แต่สวมหน้ากาก ในการแข่งขันที่จัดขึ้นในสหราชอาณาจักรผู้ครองนครดูไบชนะเงินหลายล้านปอนด์
สหพันธ์ขี่ม้าแห่งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และสหพันธ์แข่งม้าให้การสนับสนุนทางการเงินแก่เผ่าพันธุ์ม้าอาหรับในบางประเทศในยุโรปสหรัฐอเมริกาแคนาดาอียิปต์และโมร็อกโก ในปีที่ผ่านมารัสเซียได้รวมอยู่ในรายชื่อประเทศเหล่านี้ สหพันธ์บางครั้งสนับสนุนการแข่งรถในมอสโกด้วยการมีส่วนร่วมของม้าอาหรับพันธุ์แท้ เธอติดตามการผสมพันธุ์ของสายพันธุ์นี้ในรัสเซียและยืนยันการติดต่อกับผู้เชี่ยวชาญของรัสเซียในด้านการเพาะพันธุ์ม้า ประเทศนี้มีม้าอาหรับประมาณ 3-4 พันตัวรวมถึงม้าที่นำมาจากรัสเซีย
กวีแห่งวิญญาณที่ลุกเป็นไฟ
ชีคโมฮัมเหม็ดบิน Rashed Al Maktoum ไม่เพียง แต่เป็นนักการเมืองเอมิเรตหัวหน้าคนงานของโครงการก่อสร้างดูไบผู้ใจบุญผู้ใจดีผู้เลี้ยงม้าและนักกีฬา เขาเป็นกวีประจำชาติซึ่งเป็นที่รู้จักทั่วทั้งภูมิภาคอาหรับ บทกวีของเขาเขียนในภาษาอาหรับวรรณกรรมและในภาษาพูดภาษาท้องถิ่นสะท้อนให้เห็นถึงความรักชาติและความลึกล้ำทางจิตวิญญาณของวัฒนธรรมอาหรับ พวกเขาถูกทำเครื่องหมายด้วยการตัดสินใจทางอารมณ์และไม่ย่อท้อความสูงส่งของจิตวิญญาณและความอ่อนโยนของความรู้สึกของศิลปินรวมคุณสมบัติที่สดใสของผู้สร้างและผู้นำแบบดั้งเดิมที่ยุติธรรมและมั่นคง บทกวีของกวีระดับสูงถูกแปลเป็นหลายภาษา
หนึ่งในนักเขียนที่มีชื่อเสียงที่สุดในยุคของเรา - เปาโลโคเอลโฮชาวบราซิลเขียนคำนำในการรวบรวมบทกวี 27 บทกวีโดยชีคโมฮัมเหม็ด ผู้เขียนนักเล่นแร่แปรธาตุและผลงานวรรณกรรมอื่น ๆ อีกโหลซึ่งขายหนังสือมากกว่า 86 ล้านเล่มที่แปลเป็น 67 ภาษาใน 150 ประเทศเริ่มนำหน้าด้วยคำพูดของนักปรัชญาชาวสเปนJosé Ortega y Gasset ผู้นิยามคำว่า "ฉันเป็นฉันและสภาพแวดล้อมของฉัน" นั่นคือบุคคลไม่สามารถพิจารณาแยกจากสถานการณ์รอบตัวเขา
เขาเขียนว่าหลังจากอ่านบทกวีของกวีชาวเอมิเรตแล้วเขาก็เห็นทันทีว่าเขาจัดการกับนักการเมืองที่เป็นสาธารณะและในเวลาเดียวกันกับผู้ชายที่มีความรู้สึกและแรงบันดาลใจ "นี่เป็นเหตุผลสำหรับข้อตกลงของฉันกับข้อเสนอเพราะฉันตระหนักว่าฉันต้องตอบคำถามที่หลอกวิญญาณของคนไม่ใช่แค่จิตใจของนักการเมืองคนที่ถามคำถามที่เกิดขึ้นในวันนี้สำหรับพวกเราหลายคนที่อาศัยอยู่ในโลกที่โพสท่า คำถามมากมายเกี่ยวกับอนาคต "Paolo Coelho เขียน
ผู้เขียนคำนำเห็นความโรแมนติกและเชิงลึกในบทกวีของกวีและตามที่เขารู้ทันทีว่าบุคคลนี้ไม่ได้เขียนบนคอมพิวเตอร์ แต่ด้วยปากกาซึ่งเขาปฏิบัติกับความกังวลใจเดียวกันกับที่นักไวโอลินหมายถึงธนูและไวโอลินของเขา เขาตั้งข้อสังเกตว่าเขาอ่านทั้งหมดทันทีและตระหนักว่าก่อนหน้าเขาคือ "ศูนย์รวมของจิตวิญญาณและหัวใจของผู้สร้าง" Coelho มีความยินดีกับ "ความกล้าหาญอย่างตรงไปตรงมามาก" ของผู้เขียนข้อที่สะท้อนให้เห็นถึงสาระสำคัญของคนที่ไม่รู้จักสัมปทาน ซึ่งในเวลาเดียวกันยังคงเป็นนักการเมืองที่ดำรงตำแหน่งพิเศษทำให้เขาต้องยุติธรรมและประสบความสำเร็จเสมอ "กวีไม่ได้ยับยั้งความรู้สึกของเขาในทางกลับกันในบทกวีหลายบทของเขาเขาไม่กลัวที่จะแสดงความสงสัยแรงบันดาลใจในบทกวีของเขาเขารู้ดีว่าความรักเป็นพลังที่สามารถยกและบดขยี้ย้ายจากสวรรค์ไปสู่นรกได้ภายในไม่กี่วินาที ความรักมีประชากรโดยภาพบทกวีที่เกี่ยวข้องกับการล่าสัตว์: สิงโต, เนื้อทรายและแอนตีโลปที่เดินเตร่ไปตามความรู้สึกอย่างอิสระความร้อนแห่งความรักทรมานด้วยความตื่นตระหนกหลายศตวรรษของคืนที่ตื่นเป็นที่แน่ชัดว่า นักเขียนที่มีชื่อเสียง ล.
ชีคมูฮัมหมัดเผยแพร่บทกวีและบทกวีหลายชุดที่ชาวอาหรับเรียกว่า "โซฟา" พวกเขาอุทิศตนเพื่อคนพื้นเมืองบ้านเกิดของดูไบและประเทศยกย่องบุคคลในประวัติศาสตร์และบุคคลสำคัญทางการเมืองสมัยใหม่ราชวงศ์ดูไบมักตัม ตามประเพณีของชาวอาหรับเนื้อเพลงรักนั้นครอบครองสถานที่ขนาดใหญ่ใน "โซฟา" ชีคโมฮัมเหม็ดมอบข้อที่อ่อนโยนที่สุดให้กับแม่ของเขา
นี่คือบางส่วนของพวกเขาแปลโดยผู้เขียนบทความนี้ ราชวงศ์ Maktum อุทิศตนเพื่อเชิดชูบทกวีมหากาพย์ "ดวงอาทิตย์แห่ง Bygone Ages" มันเขียนตามกวีท้องถิ่นใกล้กับผู้ปกครองของดูไบในทะเลทรายในเวลากลางคืนใช้ในเต็นท์ในวันศตวรรษที่ 21
ไม่คิดว่าจะมีภูมิลำเนาโดยไม่มีครอบครัวและบรรพบุรุษเชคมูฮัมหมัดยกย่องอำนาจอธิปไตยของบรรพบุรุษผู้สูงศักดิ์ความกล้าหาญความเอื้ออาทรความมั่นคงและความยุติธรรม - ซึ่งคำพูดของเขาก็เกี่ยวข้องกับแนวคิดเรื่องบ้านเกิด กวีไม่ได้พูดถึงหัวข้อของความรักที่มีต่อม้าในบทกวีซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของวิญญาณของเขาเขามุ่งเน้นไปที่ชัยชนะไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
สถานที่พิเศษในการทำงานของรัฐบุรุษเอมิเรตที่โดดเด่นคือแม่ เขายอมรับว่าใน "แหล่งกำเนิดของความอบอุ่นของเธอ" รากฐานของบุคลิกภาพของเขาถูกวางไว้ค่านิยมและศักดิ์ศรีที่ฝังอยู่ในตัวเขา ลูกชายทุ่มเทให้กับแม่ของเขาผู้ซึ่งได้กลายเป็น "สวรรค์" สำหรับเขาและยังคงอยู่ใกล้กับจิตวิญญาณของเธอซึ่งเป็นบทกวีที่ประทับใจที่สุด
แม่
กี่คืนจะไม่ตก
ความทรงจำในหน้าอกทุกชีวิต
ดีกว่าดวงจันทร์จะไม่เพิ่มขึ้น
เพลงขับกล่อมคุณ
ไม่มีคุณแม่ที่รัก
ญาติสนิทราคาแพงกว่า
ฉันไม่รู้จักผู้สูงส่งด้วยหัวใจ
ชื่อกว่าของคุณ
คุณคือแหล่งกำเนิดของความอบอุ่น
พังพอนสันติภาพความฝัน
ไม่ว่าเวลาจะหนาวแค่ไหน
ความรู้สึกที่มีต่อคุณจะไม่ผ่าน
คุณบดบังวันของฉัน
คุณคือเงาที่ดีที่สุดของฉัน
ฉันกำลังรีบเข้าไปในท้องฟ้าของคุณ
ทันทีที่วันนั้นมาถึง
คุณอยู่คนเดียวในใจฉัน
เมื่อตื่นนอน
และเมื่อคุณเข้านอน
ตลอดไปทุกชีวิตล่วงหน้า
HH Sheikh Mohammed Bin Rashid Al Maktoum
